30 มิ. ย. 2541 ที่ดำเนินการไม่แล้วเสร็จ มีที่มาแต่ไม่มีที่ไป " แต่ปัญหานี้กำลังได้รับการคลี่คลาย เนื่องจากมีการออกพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ. 2562 และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ. 2562 ซึ่งถือเป็นกฎหมายสองฉบับแรก* ที่ยอมรับการมีอยู่ของคนในป่า เงื่อนไขของผู้ที่จะได้รับการสำรวจถือครองในเบื้องต้นต้องไม่มีที่ดินทำกินและได้อยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ ที่มีการประกาศกำหนดมาก่อนวันที่พระราชบัญญัติทั้ง 2 ใช้บังคับ ภายใต้กรอบเวลาตามมติครม.
23 ก. ค. 2563 เวลา 4:16 น. 1. 7k คอลัมน์เศรษฐทัศน์ วิถีใหม่ไทยแลนด์ (4) การลดลงของพื้นที่ป่าไม้ โดย... รศ. (พิเศษ) ดร.
การจัดตั้งศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า เป็นลักษณะของการนำสัตว์ป่าไปเลี้ยงไว้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีสภาพเป็นธรรมชาติ หรือใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาและพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน เช่น เขาเขียว จังหวัดชลบุรี บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น 4.
6 การทำเหมืองแร่ แหล่งแร่ที่พบส่วนใหญ่อยู่บริเวณป่าไม้ทั้งสิ้น ดังนั้น การขุดแร่จึงต้องทำลายพื้นป่า มีผลทำให้พื้นที่ ป่าลดลงรวมทั้งการทำเหมืองหินปูนเพื่อนำหินปูนมาผลิตปูนซีเมนต์ด้วย 6. 7 การทำลายของสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงตามชายป่าก็มีส่วนในการทำลายป่าไม้เช่นกัน อันเกิดจากการกัดกินใบ กิ่ง ราก และหน่อของพืช รวมทั้งการเหยียบย่ำ ทำให้ต้นอ่อนของพืชถูกทำลาย ทำให้ดินแน่นพืชงอกงามได้ยาก การปล่อยสัตว์เลี้ยงในปริมาณมากเข้าป่าจะก่อให้เกิดผลกระทบดังกล่าวแต่ก็ยังถือว่าไม่รุนแรงเท่าสาเหตุอื่น ๆ 6. 6 การทำลายของเชื้อโรคและแมลง เชื้อโรคและแมลงบางชนิดจะระบาดสามารถกัดกินต้นไม้บางชนิดให้ตาย หรือชะงักการเจริญเติบโตได้ เช่น ตักแตนบุกทำลายป่าสน มอดทำลายไม้สัก เป็นต้น 6. 9 การปกป้องรักษาป่าไม่เข้มแข็งและเด็ดขาด กรมป่าไม้และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการประสานงานที่ดีพอ อีกทั้งมีขีดจำกัดเรื่อง งบประมาณในการดำเนินงานดังกล่าว
จากการที่ปริมาณป่าไม้ลดลงย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพ และมีผลต่อปัจจัยทางชีวภาพ มีผลกระทบต่อ สภาพดิน น้ำ อากาศ สัตว์ป่า สิ่งแวดล้อมอื่นๆ เพราะทั้ง ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จะมีความสัมพันธ์กันไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ในระบบนิเวศ ก่อให้เกิดสมดุลทางธรรมชาติ การทำลายป่าจึงก่อให้เกิดผลกระทบในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. เกิดการชะล้างพังทลายของดิน ป่าที่ถูกทำลายจะทำให้ไม่มีต้นไม้ วัชพืช หญ้าปกคลุมดิน เมื่อฝนตกลงมาน้ำฝนจะกัดเซาะหน้าดินที่อุดมสมบูรณ์ให้ไหลไปกับกระแสน้ำ 2. เกิดน้ำท่วมในฤดูฝน บริเวณป่าที่ถูกทำลายจะไม่มีต้นไม้ วัชพืช และหญ้าที่ปกคลุมหน้าดินช่วยดูดซับน้ำฝน ไว้ ทำให้น้ำไหลบ่าจากที่สูงอย่างรุนแรง และมีปริมาณมากทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ตอนล่างอย่างฉับพลัน 3. เกิดความแห้งแล้งในฤดูแล้ง การทำลายป่าไม้ ต้นน้ำลำธารทำให้ป่าไม้ถูกตัด แยกออกเป็นส่วนๆ เกิดการระเหยของน้ำจากผิว ดินสูง แต่การซึม ผ่านผิวดินต่ำ ดินดูดซับและเก็บ น้ำไว้ได้น้อย ส่งผลให้น้ำไหลลงสู่ลำธารน้อยเกิด ความแห้งแล้งในฤดูแล้ง 4. เกิดปัญหาโลกร้อนขึ้น เนื่องจากป่าไม้เป็นแหล่งของการหมุนเวียนสาร ระหว่างออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ น้ำและสารอื่นๆ ในระบบนิเวศที่ สำคัญ การทำลายป่ามีส่วนทำให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อุณหภูมิของโลกสูง 5.